สาระ

สาระน่ารู้มากมายที่คุณต้องรู้

บางคนบอกว่าเลขและการคำนวนนั้นยากเกินไปที่จะทำได้ แต่อีกหลายคนก็อาจจะบอกว่ามันง่ายมากมาก เพราะมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายช่วยแต่อันที่จริงแล้วในแต่ละวันเราก็อาจจะต้องมีการใช้งานการบวก การลบ การคูณ คำเหล่านี้ซึ่งนั้นแหละถ้าเราไม่มีเครื่องคิดเลขอยู่ในมือละก็ เราเองก็ต้องไปคิดถึงคุณครูวิชาคณิตศาสตร์ทันทีอย่างแน่นอน และแม้ว่าคลาสนี้เป็นเพียงความทรงจำสำหรับเรา แต่ยังมีสิ่งต่างๆ ที่เราต้องนับหรือแก้ไขในชีวิตประจำวันของเรา สำหรับลูกๆ ของเราพวกเขาต้องการที่จะสอบผ่านชั้นเรียนคณิตศาสตร์อย่างรวดเร็วและง่ายดาย พวกเรายินดีที่จะแบ่งปันความลับทางคณิตศาสตร์กับคุณเพื่อให้ลูกของคุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย จะดีกว่าถ้าคุณมีกระดาษแผ่นหนึ่งก่อนที่คุณจะเริ่มเพราะคุณอาจอยากจะลองสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง 1. ลองใช้มือของคุณ ในการคูณสูตรคูณแม่ 9ได้นะ วางมือไว้ข้างหน้าคุณ พิจารณาว่าแต่ละนิ้วมีหมายเลขของตัวเอง เหมือนในรูป ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องคิด 4 × 9 ค้นหาหมายเลข 4 แล้วงอนิ้วของคุณ ตอนนี้ นับนิ้วทั้งหมดทางซ้ายของนิ้วที่งอและทางขวาของนิ้วงอ ด้านซ้ายเราได้ 3, ทางขวาเราได้ 6 ตอนนี้ใส่ตัวเลขเหล่านี้เข้าด้วยกัน 36 คือคำตอบที่ถูกต้อง 2. การคูณตัวเลข 3 หลัก ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องแก้ 652...
มาลองอ่านบทความนี้เกี่ยวข้องกับคนที่มีความสนใจ และอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนและตัดสินใจที่จะหาคำตอบสำหรับสิ่งเหล่านี้ว่ามันคืออะไร และพวกเขาขอความช่วยเหลือจาก Reddit และผู้คนใน Reddit ก็อธิบายจุดประสงค์การสร้างและวิธีใช้ที่แท้จริงของสิ่งที่พวกเขาพบ เราตัดสินใจรวบรวมสิ่งที่ผู้คนค้นพบ ที่ทำให้เรามีความรูัรอบตัวมากขึ้น “ พบสิ่งนี้ในที่ทำงาน มันคืออะไร พวกเรางงงันและไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน” © cherry-cheeseburger / Reddit คำตอบ: มันเป็นอุปกรณ์สำหรับค้นหาแหล่งกำเนิดเสียง “ ฉันกับแฟนคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเกี่ยวกับกลอนหน้าต่าง มันถูกหรือเปล่านะ” © Ymmy805 / Reddit คำตอบ: เป็นที่ไว้ใช้ทำความสะอาดกีบม้า “ ฉัยพบสิ่งเหล่านี้ในกล่องเครื่องมือของปู่ของฉัน " © BigRed2001 / Reddit คำตอบ: มันเป็นที่ตัดก้านองุ่น “ พบในกล่องเครื่องประดับของคุณยายของฉัน - มีความยาวประมาณ 3 นิ้ว น่าจะอยู่ในยุคปี 1950” © TheRedFoxx / Reddit คำตอบ: มันเป็นกิ๊บหนีบที่ข้อมือ โซ่เอาไว้พันรอบที่จับถุงหรือกระเป๋า “...
ความสามารถในการแนะนำตัวเอง เป็นทักษะที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับการสัมภาษณ์งาน เนื่องจากผู้สรรหาพนักงานใหม่ไม่ได้คำนึงถึงแค่ความเป็นมืออาชีพและประสบการณ์การทำงานของคุณเท่านั้น แต่ยังคงคำนึงถึงระดับความมั่นใจของคุณว่าคุณพูดได้ดีแค่ไหน และ ยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากทักษะของคุณ ยังมีเทคนิคทางจิตวิทยาบางอย่างที่สามารถช่วยให้คุณได้งานในฝันเร็วขึ้นและง่ายขึ้น เราพบว่ามีกลวิธีในการทำให้ผู้ที่หาพนักงานใหม่สนใจคุณมากขึ้น 1. อย่านัดวันจันทร์หรือวันศุกร์ © Depositphotos นักจิตวิทยาและผู้มองหาพนักงานใหม่ที่มีประสบการณ์พบว่า ช่วงเวลาที่เหมาะในการสัมภาษณ์งานคือ: วันอังคารเวลา 10.00 น. ถึง 15.00 น. มันเป็นวันและเวลานี้คุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างความประทับใจให้กับนายจ้างของคุณด้วยเหตุผลที่ว่า: วันจันทร์เป็นวันที่วุ่นวายสำหรับทุกคนและแผนกทรัพยากรบุคคลก็เช่นกัน ในวันศุกร์ทุกคนคิดถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นเวลาที่เป็นประโยชน์คือในกลางสัปดาห์ที่ไม่ใช่ช่วงเช้าตรู่ 2. สวมถุงน่องสร้างความประทับใจครั้งแรก © Depositphotos © Depositphotos สีเสื้อผ้าของคุณมีผลกระทบต่อมุมมองในตัวคุณอย่างเช่น หากคุณกำลังสวมสูทสีน้ำเงินหรือสีน้ำตาล หมายความว่าคุณเป็นผู้สมัครที่จริงจัง สีเดียวที่ทำให้นายจ้างไม่ชื่นชอบคือสีส้ม แต่สีไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณควรจำเอาไว้ อย่าลืมสวมถุงน่อง เพราะจทำให้การแต่งตัวของคุณดูเรียบร้อยขึ้น จากการสำรวจแสดงให้เห็นว่ารายละเอียดเล็กๆมีความสำคัญมาก! และอีกสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับรองเท้าส้นสูง - ในทางจิตวิทยาคนสูงดูเหมือนผู้นำและมืออาชีพ และเงินเดือนเฉลี่ยของพวกเขาก็สูงกว่าคนที่ตัวเตี้ยกว่า 3. เคล็ดลับที่จะทำให้ทุกคนชอบคุณในทันที © The...
พวกเรามักจะมองคนอื่นๆจากภาพลักษณ์ภายนอก และภาพลักษณ์เหล่านั้นทำให้เราใช้ชีวิตยากขึ้น: ขาต้องเรียวยาว อกของเราควรจะมีสัดส่วนที่สวยงาม และร่างกายต้องฟิต เมื่อปรากฎว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีอิทธิพลต่อความน่าดึงดูดใจของเราเท่าที่เราคิดเอาไว้ มีการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความน่าดึงดูดใจของหญิงและชาย และในตอนท้ายของเรื่องมีโบนัสดีๆให้ชม สีแดงอาจทำให้เราดูโดดเด่นกว่า © depositphotos (ซ้าย: อาจจะไม่สร้างความน่าสนใจเท่าไหร่  ขวา: คนเห็นทันที) หลายคนชอบเสื้อผ้าสีสดใสและยิ่งเป็นคุณผู้หญิงก็จะยิ่งมีสีสันมากมายเลยและเป็นที่เชื่อกันว่าหญิงบางคนใช้สีของเครื่องแต่งการเพื่อดึงดูดสายตาฝ่านชายได้ด้วยนะ และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะมันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกที่บอกว่าสีแดงนั้นเกี่ยวข้องกับความรัก ดังนั้นสีแดงจะช่วยเพิ่มระดับความน่าดึงดูดใจทางกายภาพของผู้หญิงได้ทันที นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสร้างแบบทดสอบอย่างง่ายๆ และพวกเขาพบว่าผู้ชายมักจะให้ทางแก่ผู้หญิงที่สวมใส่สีแดงมากกว่าผู้หญิงที่ใส่สีอื่น นักวิจัยกล่าวว่าผู้ชาย 1 ใน 5 คนพร้อมที่จะรับผู้หญิงชุดแดง และมีเพียง 1 ใน 10 ของผู้ขับรถจะหยุดรับผู้หญิงในชุดสีดำ ส่วนผู้ขับขี่หญิงจะไม่สนใจเรื่องสีเลย ในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคนชอบรองเท้าส้นสูง © depositphotos (ซ้าย: ผู้หญิงชอบเพราะจะทำให้ดูสูงขึ้น  ขวา: ผู้ชายชอบมากกว่าเพราะดูสบาย) ในปีหนึ่งมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของรองเท้าของฝ่ายหญิงที่จะช่วยเรียกความสนใจจากอีกฝ่ายได้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทำการสร้างบททดสอบ โดยให้ผู้หญิงสวมใส่รองเท้าส้นสูง 3.5 นิ้วและผู้หญิงสวมรองเท้าไม่มีส้นขอความช่วยเหลือจากผู้ชาย โดยที่นักวิจัยเฝ้าดูว่าหากผู้หญิงคนหนึ่งทำขอตก ผู้ชายจะหยิบมันขึ้นมาหรือไม่ ผลก็คือผู้ชายมีแนวโน้มที่จะช่วยผู้หญิงใส่รองเท้าสนสูงมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่รองเท้ามีส้น แต่หลังจากที่มีการทำแบบทดสอบนี้ซ้ำๆ ในหลายหลายอย่างก็ทำให้เราได้ขอสรุปว่าอันที่จริงแล้วนอกจากรองความสูงของรองเท้าแล้วยังมีองค์แระกอบอื่นๆอีกอย่างเช่นการแต่งตัวให้เข้าชุดและ เรื่องของภาพรวมอื่นๆ...
นอกจากสินค้าและบริการที่ดีแล้ว เรื่องของเทคนิคการตลาดนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และนี่คือบทความที่ให้ความรู้จากนักการตลาดที่ชื่อ Pavel ที่มีประสบการณ์ทำงานในการวางแผนกการตลาดของบริษัทต่างๆ มาหลายปีเขามีเทคนิคดีๆ หลากหลายอย่าง เพื่อให้ผู้คนซื้อสินค้ามากกว่าที่เขาต้องการ และในที่สุดเขาก็ต้องการเผยความลับที่นักการตลาดอย่างพวกเขาทำ "ฉันจะเปิดเผยความลับสักสองสามข้อที่นักการตลาดมืออาชีพสอนให้ฉัน เพื่อให้คุณประหยัดเงินและซื้อของน้อยลง" 1. สาเหตุที่เรามักจะได้ของตัวอย่างฟรีจากร้านค้า © Kontrolnaya zakupka / youtube คุณมักจะเห็นหนุ่มสาวหน้าตาดียืนแจกสินค้าต่างๆ ฟรี เช่น ไส้กรอกแบบต่างๆ และสิ่งของอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณชอบสินค้าตัวใหม่ๆเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่ถูกเสนอให้ลิ้มลองอาหาร หรือ ของใช้อื่น ๆ ได้ฟรี มักมีความรู้สึกอยากซื้อหรือใช้สินค้าชนิดอื่นๆ ขอแบรนด์สินค้านั้นๆ ยกตัวอย่างทฤษฎีนี้ให้เข้าใจง่าย ๆ เช่น เมื่อคุณได้รับของขวัญที่ไม่คาดคิดจากเพื่อนของคุณ คุณมักจะซื้อของขวัญให้แก่พวกเขา และนี่คือการใช้หลักการเดียวกัน และ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้บริโภคมักใช้ความรู้สึก มากกว่าเหตุผล 2. ความมหัศจรรย์ของตัวเลข ©...
ต้องบอกว่าเรื่องราวการอธิบายถึงอคติหรือความผิดพลาดในกระบวนการคิด ความผิดพลาดเหล่านี้จะโน้มน้าวเราถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ถ้าคุณรู้เกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆเหล่านี้ คุณจะสามารถคาดการณ์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้ง่ายขึ้น และพวกเราจะปลอดภัยจากกลอุบายที่นักการตลาดและพนักงานขายใช้กับเรา เพราะกลยุทธ์ของพวกเขาขึ้นอยู่กับผลกระทบทางด้านจิตวิทยาเหล่านี้ พวกเราอย่างนี้ก็ได้ ได้อ่านบทความมากมายและเราต้องการให้คุณรู้เกี่ยวกับกลทางจิตวิทยาที่สมองของเราสามารถเล่นตลกกับเราได้ 1. กฎ Yerkes - Dodson (ซ้าย: ว้าว, ฉันไม่รู้เลยว่าจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้  ขวา: รางวัลตั้ง 150,000 บาท ฉันต้องชนะ) สิ่งที่เป็นแรงจูงใจมีอิทธิพลต่อผลการทำงานว่าเราจะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ แน่นอนว่าถ้าเราไม่มีแรงจูงใจเพียงพอเราก็ไม่น่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี แต่กฎของ Yerkes - Dodson กลับบอกว่าถ้าคุณมีแรงจูงใจมากเกินไปผลที่ได้อาจจะก็จะลดลงได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นนักกีฬาที่ถูกผลักดันด้วยรางวัลเพียงอย่างเดียวอาจทำผลการแข่งขันได้ไม่ดี หรือหญิงสาวที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้ผู้ชายชอบ ความตึงที่เครียดสูงกลับยิ่งทำให้เรารู้สึกยากลำบากที่จะทำงานเหล่านั้น 2. Irwin effect (ชาย: ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะเลิกกับเธอ หญิง: เขาทำตัวแปลกจัง สงสัยกำลังจะขอเราแต่งงาน) เราคิดว่าสิ่งที่ดีมักจะเกิดขึ้นกับเรามากกว่าสิ่งที่ไม่ดี ในปี 1998 นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน, Scott Plous ได้ทำการทดลองโดยมีเหตุการณ์เชิงบวกและเชิงลบ 42...
ถ้าจะบอกว่าบางครั้งเราก็มองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปอย่างเช่นเรื่องของอาหารการกินนั้นเอง ที่หลายคนที่มีสัตว์เลี้ยงก็คิดไปเองว่าสิ่งที่เราทานได้เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงของเราก็น่าจะทานได้เหมือนกัน แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยเพราะร่างกายของเรานั้นแตกต่างกับเหล่าบรรดาน้องหมาน้องแมวอย่างมาก ดังนั้นถึงรสชาติอาหารที่เราทานมันจะถูกปากน้องๆมากขนาดไหนก็ตามแต่บางอย่างมันก็ทำให้น้องไม่สบายได้นะ และวันนี้พวกเราก็เอาเรื่องของเจ้าเหมียวและอาหารที่เจ้าเหมียวไม่สามารถทานได้มาฝากเพื่อนเพื่อนเป็นความรู้ด้วย อย่างเช่นน้องแมวไม่สามารถลิ้มรสสิ่งที่หวาน นอกจากนี้อาหารบางชนิดยังเป็นสิ่งที่บั่นทอนต่อสุขภาพน้องแมวด้วย ดังนั้นในขณะที่เราคิดว่าเราเป็นเจ้าของที่ดีแต่เราอาจทำร้ายพวกมันอยู่ มีอาหารที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อแมวและเราต้องให้ความสนใจกับพวกมันเพราะจะเป็นการปลอดภัยสำหรับพวกมัน พวกเราต้องการให้พวกมันมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว ดังนั้นเราจึงตัดสินใจนำเสนออาหาร 10 ชนิดที่คุณควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารพวกมัน 1. นมและผลิตภัณฑ์จากนม © sleepahol / reddi © depositphotos ตอนเด็กน้องๆอาจจะทานได้นะ แต่แมวที่โตเต็มวัยส่วนใหญ่มีอาการแพ้แลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบในนม แม้ว่าพวกมันอาจชอบรสชาติของนมและผลิตภัณฑ์นม แต่ก็ไม่ควรให้อาหารพวกมันเพราะเป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารของพวกมัน การกลืนนมอาจทำให้อาเจียนและท้องเสีย หากแมวของคุณกระหายน้ำให้มันกินน้ำแทน 2. ช็อคโกแลตและขนม © depositphotos © jpilot/easyfotostock/Eastnews ช็อคโกแลตมีส่วนผสม 2 อย่างที่เป็นอันตรายกับแมวได้: คาเฟอีนและธีโอโบรมีน ซึ่งร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมได้ง่าย แต่มันไม่สามารถดูดซึมได้มากนักสำหรับน้องแมว เมื่อแมวกินช็อคโกแลตส่วนผสมจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อพวกมันและอาจทำให้ตับล้มเหลวได้เลย เราเลยไม่แนะนำให้แมวกินขนมของเราด้วย เพราะขนมจำนวนมากมีปริมาณน้ำตาลสูงซึ่งอาจเป็นสิ่งไม่ดีต่อสุขภาพของแมวได้ เช่นเดียวกับมนุษย์ นอกจากนี้ขนมบางชนิดยังเมื่อทานเข้าไปอาจทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก 3. เนื้อสัตว์และปลาดิบ © depositphotos เนื้อดิบและปลาอาจมีสิ่งปนเปื้อนที่เราคาดไม่ถึงและอาจทำให้เกิดอาการอื่นๆที่รุนแรงตามมา...
จากข้อมูลทางสถิติโลกกำหนดไว้ว่ามีจำนวนนักเดินทางที่เลือกการเดินทางโดยเครื่องบิน ตั้งแต่เดือนมกราคมมีผู้โดยสารมากกว่า 4.6 พันล้านคน แน่นอนว่าสำหรับคนจำนวนมากสนามบินและเครื่องบินเกือบจะเหมือนบ้านหลังที่สองของพวกเขา คนเหล่านี้รู้ความลับมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระหว่างเที่ยวบิน บางครั้งแม้แต่รายละเอียดที่ไม่สำคัญก็ดูเหมือนว่าสำคัญ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้า เราได้ตรวจสอบประสบการณ์ของนักเดินทาง และอ่านคำแนะนำจากนักบินและแพทย์ และเราพร้อมที่จะแบ่งปันความลับที่เราพบเกี่ยวกับการแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวบิน 1 เสื้อผ้าฟิตๆเกินไป ©Flower beauty Shop / aliexpress © depositphotos เที่ยวบินสร้างความเครียดให้ร่างกาย และทำให้หลอดเลือดของเราเกิดความเครียด เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงความดันและความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานในเก้าอี้ขนาดเล็ก สิ่งที่ทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกคือเสื้อผ้าที่คับ เนื่องจากการสวมใส่สิ่งที่แน่นเกินไปทำให้การไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพลดลง แพทย์ยังมีคำแนะนะสำหรับเรื่องนี้ มีวิธีการที่แก้ไขซึ่งแม้แต่การบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวของคุณเองก็ควรทำ ครั้งหนึ่งเลดี้กาก้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอเพราะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินขอให้เธอเปลี่ยน เครื่องแต่งกายหรูหราของเธออาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงเมื่อเครื่องบินไปถึงจุดที่ความสูงมาก ในสถานการณ์เช่นนี้แพทย์จึงแนะนำให้ผู้โดยสารเลือกเสื้อผ้าที่หลวมและสวมถุงเท้าสั้น เมื่อใฝ่หาความสะดวกสบายแต่อย่าลืมว่า: สิ่งที่หลวมนั้นดี แต่ไม่ปลอดภัยเสมอไป ผู้โดยสารที่สวมกางเกงหลวมและใส่เสื้อฮู้ดขนาดใหญ่อาจซ่อนสิ่งไม่ปลอดภัยไว้ใต้เสื้อผ้าของพวกเขาดังนั้นผู้ที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินจึงให้ความสนใจกับเขาเป็นพิเศษ นอกจากนี้เมื่อเลือกเสื้อผ้าคุณควรเลือกใช้ผ้าที่ทำมาจากธรรมชาติ เพราะผ้าใยสังเคราะห์อาจระคายเคืองผิวหนังเพราะอากาศแห้งบนเครื่องบิน และผ้าสังเคราะห์ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีและติดไฟง่าย กางเกงยีนส์ที่ใส่แล้วขยับขาลุกนั่งลำบาก © depositphotos ข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่ง คือ การไม่สวมใส่สิ่งที่แน่น ผู้โดยสารควรเพิ่มขนาดสักสองสามนิ้ว และเก็บกางเกงยีนส์ตัวโปรดของคุณไว้ในกระเป๋า ชุดชั้นในฟิตเกินไป © You Are So...
การเป็นแอร์โฮสเตสกับสายการบินที่ดีที่สุดในโลกนั้นยากกว่าการเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก อาจมีผู้สมัครมากถึง 200 คนในหนึ่งตำแหน่งและน้อยกว่า 1% ของผู้สมัครจะสัมภาษณ์งานด้วยความสำเร็จ ซึ่งยากมากกว่าการเข้ามหาวิทยาลับ Harvard ซะอีก และวันนี้พวกเราก็เลยอยากจะเอาเรื่องราวบางอย่างมาบอกเล่าให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังกันสักหน่อย อย่างแรกเลยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจ่ายเงินเป็นรายชั่วโมงนะจะบอกให้ -เรื่องต่อมานั้นคือเวลาการทำงานนั้นต้องบอกว่าหนักไม่น้อยหน้าใครเลยก็ว่าได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 90 ชั่วโมงต่อเดือนบนท้องฟ้า และบริษัทแต่ละแห่งนั้นมีคำจำกัดความของเวลาการทำงาน และระเบียบเรื่องการนับชั่วโมงการบินที่แตกต่างกัน: ในบางบริษัท เริ่มต้นทันทีเมื่อเครื่องยนต์ของเครื่องบินเปิดอยู่และในบางแห่งเมื่อเครื่องบินเริ่มเร่งความเร็วบนรันเวย์ -มีตารางการทำงานที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องอยู่ใกล้กับสนามบินเป็นเวลา 18 วัน: เพื่อที่พนักงานเหล่านั้นจะสามารถเข้าไปทำงานได้ทันที่เมื่อมีการเรียกตัวสำหรับเที่ยวบินที่ไม่ได้บอกไว้ล่วงหน้า โดยปกติจะเกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดเมื่อบริษัทมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงเวลา 12 วันที่เหลือของเดือนพวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนได้ -ในบริษัทการบินบางแห่งพนักงานต้อนรับหญิงอาจจะสวมรองเท้าส้นสูงตอนขึ้นเครื่อง แต่ในระหว่างเที่ยวบินพวกเขาสวมรองเท้าส้นแบนเพื่อไม่ให้ละเมิดกฎความปลอดภัย -ทุก 6 เดือนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องได้รับการตรวจจากแพทย์เพื่อเป็นการตรวจสอบความพร้อมของร่างกายในการทำงาน นี่เป็นบางสิ่งที่เหมือนกับการตรวจร่างกายเป็นประจำปี ซึ่งการตรวจนั้นดูจะละเอียดมากมากเพราะมันรวมถึงการไปพบจักษุแพทย์ ทันตแพทย์ แพทย์ผิวหนัง เอ็กซ์เรย์ทรวงอก เอ็กซ์เรย์ศีรษะ ตรวจเลือดสำหรับเอชไอวี ไทฟอยด์ ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งคนที่เคยผ่าตัดบางอย่างหรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังไม่สามารถทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้ -วัคซีนทั้งหมดควรฉีดให้ครบตรงเวลา คุณไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวัคซีน -ไม่ใช่ความสูงที่สำคัญ...
คงเป็นอย่างเดียวที่หลายคนบอกว่าทำอย่างไรก็ไม่พอ และหลายคนก็บอกว่าสามารถนอนข้ามวันข้ามคืนกันเลยด้วยก็มี ใช่แล้วการนอนนี้แหละที่สุดของความสุขของเราแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนที่คุณเป็นเด็กคุณจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ยอมนอน ซึ่งทำให้พ่อแม่ของคุณหงุดหงิด แต่ในทางกลับกันในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้เราสามารถงีบได้!ตลอดวัน เพราะการนอนหลับให้พลังงานกับเราซึ่งช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตต่อไปด้วยจิตใจและร่างกายที่สดชื่น โดยช่วงเวลา 13.00 - 16.00 น. นั้นมันช่างง่วงเหลือเกิน แต่เรากลับต้องมานั่งทำงานนะสิ อย่างไรก็ตามระยะเวลาและเหตุผลในการงีบแต่ละอย่างมันมีความแตกต่างกัน ตามหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เราเห็นถึงความเกี่ยวข้องระหว่างการงีบประเภทต่างๆ กับผลของมัน และพวกเราต้องการช่วยให้คุณรู้ว่าการงีบที่แบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ การงีบมี 3 ประเภทในแง่ของเหตุผล 1. งีบแบบตั้งใจไว้ล่วงหน้าแล้ว © Friends / Warner Bros. นี่คือการงีบที่คุณตั้งใจจะทำก่อนที่จะรู้สึกเหนื่อยเพื่อประหยัดพลังงาน หากคุณต้องตื่นนอนเป็นเวลานานหลายชั่วโมงในตอนกลางคืน คุณสามารถได้ประโยชน์จากการงีบได้ในเวลากลางวัน 2. หลับฉุกเฉิน © Sharp Objects / HBO เมื่อคุณรู้สึกอยากปิดตาหมายความว่าคุณต้องงีบทันที ร่างกายของคุณกำลังแสดงสัญญาณของความอ่อนล้าเพื่อให้คุณสามารถหลับตาและพักผ่อนได้ ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณรู้สึกว่ามันง่วงมากในขณะขับรถ คุณควรขับรถเข้าข้างทางที่ปลอดภัยและงีบสักครู่ 3. การงีบหลับในเวลาเดิมๆจนเป็นนิสัย การงีบหลับประเภทนี้เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก เนื่องจากมันเกิดขึ้นทุกวันในเวลาที่เหมาะสม แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถลองใช้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อคุณคุ้นเคยกับการงีบเป็นนิสัยร่างกายของคุณอาจต้องนอนในเวลาที่กำหนดดังนั้นคุณต้องเตรียมเวลาให้พร้อม ผลกระทบของการงีบยังแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณนอนหลับ 1. หยุดชั่วคราวพลัง:...