เบื้องหลังกว่าจะมาเป็นเรื่องราวที่เราเห็นในภาพยนตร์ดัง

ก่อนหน้านี้พวกเราต่างหาวิธีการต่างๆ มากมายในการทำให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยการใช้ตัวหนังสือหรือภาพวาด ต่อมาความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาขึ้นและทำให้สิ่งต่างๆยกระดับความสามารถขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เราสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อีกทั้งยังสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆออกมาจากความฝันหรือความคิดของพวกเราได้โดยง่าย ซึ่งเมื่อพวกเราสามารถถ่ายทอดความคิดและสิ่งที่อยากจะบอกออกมาเป็นภาพเพื่อให้คนอื่นๆได้รับรู้ได้แบบนี้ก็ทำให้พวกเราเข้าถึงโลกแห่งจินตนาการของเหล่าผู้มีความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นนั้นเอง ใช่แล้วเรากำลังพูดถึงเรื่องจินตนาการที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนต์ต่าง ๆ ที่ได้ชื่นชมกันนั้นเอง

ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ชมเรื่องราวเหล่านั้นกันมาบ้างแล้วแต่เพื่อนเพื่อนทราบไหมว่าเบื้องหลังของการสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ให้ออกมาเป็นเรื่องราวความยาวหนึ่งถึงสองชั่วโมงนั้นมันมีสิ่งต่าง ๆ มากมายเลยที่ต้องทำเพื่อและวันนี้พวกเรา BTW ก็ลองเอาเบื้องหลังเล็กๆน้อยๆมาให้เพื่อนเพื่อนได้ชมกัน

เราขอบอกถึงสิ่งแรกเลยที่มักจะต้องใช้งานในภาพยนต์แทบจะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้นั้นก็คือเรื่องของการใช้ CG หรือที่หลายหลายคนคิดว่าย่อมาจาก Computer Graphics แต่อันที่จริงแล้วมันย่อมาจากคำว่า Computer generated ซึ่งหมายถึงสิ่งต่าง ๆที่สร้างผ่านคอมพิวเตอร์นั้นเองอย่างภาพของตัวเอกของเรื่อง Alita: Battle Angel ที่เป็นหุ่นยนต์สาวน้อยแสนสดใสนั้นก็ถูกสร้างจากภาพตัวละครคอมพิวเตอร์สามมิติซ้อนเข้าไปในฉากที่ถ่ายทำสิ่งที่เพื่อนเพื่อนเห็นว่าเหล่านักแสดงต้องสวมชุดพิเศษและมีการทำจุดสีตามส่วนต่าง ๆ เพื่อที่จะเอาตำแหน่งของการขยับเหล่านั้นไปใช้ในการประมวลผลภาพสามมิติให้ออกมามีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับคนจริง ๆ นั้นเอง ซึ่งเรียกกันว่า Facial motion capture นี้แหละคืออีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้จินตนาการเคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิตเลยก็ว่าได้
© 20th Century Studios
นอกจากการสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงให้เกิดขึ้นแล้ว ความสามารถของ CG นั้นยังมีมากขึ้นไปอีกเมื่อสามารถทำให้สิ่งที่มีนั้นเปลี่ยนแปลงหรือหายไปก็ยังได้อย่างการเปลี่ยนภาพของนักแสดงนำที่อาจจะดูมีอายุสักหน่อยให้กลายเป็นหนุ่มขึ้นมาิีกครั้งด้วยการลบร่องรอยจากความต่างของแสงและเงาที่เกิดขึ้น© Netflix Film Club
และเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในกับเหล่านักแสดง รวมทั้งการสร้างสถานที่ซึ่งไม่มีอยู่จริงให้เหล่านักแสดงสามารถเข้าไปโลดแลนอยู่ในนั้นได้ นั้นก็คือการใช้ Blue screen หรือ Green screen ที่เราได้ยินกันบ่อย แต่อันที่จริงแล้วเจ้าฉากสีเขียวสีฟ้าที่เราเห็นนั้นมันจะเป็ยสีอะไรก็ได้นะเพียงแต่ว่ามันจะต้องเป็นสีที่ไม่มีอยู่บนตัวนักแสดงหรืออยู่ในชุดที่ต้องสวมใส่เท่านั้นเอง ซึ่งเบื้องหลังการทำงานของเทคนิคนี้ก็คือการลบเอาพื้นที่สีเขียวหรือสีอื่นที่เราเลือกออกไปให้หมดแล้วถูกแทนที่ได้ภาพของฉากอื่นๆที่เราเตรียมไว้นั้นเอง
© Netflix
อย่างที่บอกไปนั้นแหละว่ามันจะเป็นสีอะไรก็ได้ ดังนั้นในฉากที่ตัวละคนสวมชุดที่มีสีเขียวจึงต้องใช้ฉากหลังสีฟ้าแบบนี้ยังไงละแล้วเพื่อนเพื่อนทราบไหมละว่าทำไมถึงนิยมใช้สีฟ้าหรือสีเขียวเป็นหลัก นั้นก็เพราะว่าบนร่างกายของคนของเรานั้นแทบจะไม่มีส่วนที่สามารถแสดงสีฟ้าหรือสีเขียวได้เลยยังไงละดังนั้นสองสีนี้จึงง่ายต่อการใช้งานเพราะที่เหลือก็เพียงแต่เลือกชุดเสื้อผ้าที่สีอื่นๆไปเท่านั้นเอง
© Warner Bros.

แต่ไม่ว่าเราจะมีเทคนิคสุดยอดขนาดไหนก็ตามความสามารถของนักแสดงก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะดึงเอาความรู้สึกจากผู้ชมเข้าไปสู้เรื่องราวเหล่านั้น
© มาร์เวล

และที่ต้องยอมรับเลยว่าเหล่านักแสดงเบื้องหลังซึ่งเราอาจจะไม่เคยเห็นใบหน้าหรือรู้จักเค้าเหล่านั้นก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบในการถ่ายทอดจินตนาการ อย่างที่เรากำลังชมภาพนี้อยู่นั้นก็คือนักแสดงประกอบกำลังแสดงแทน CG ของช้างน้อยซึ่งช่วยทำให้นักแสดงอื่นๆเล่นในบทบาทของตนเองได้อย่างราบรื่น
© Insider

และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับในตัวนักแสดงนอกจากความสามารถในการแสดงแล้วนั้นก็คือความทุ่มเทที่ต้องดูและตัวเองหรือบางครั้งก็ต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้มีลักษณะเหมือนกับตัวละครเหล่านั้นจริง ๆ อย่างการเขียนลวดลายต่าง ๆ แบบนี้ซึ่งแต่ละครั้งก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงทั้งการลงสีและหลังจากนั้นยังต้องล้างออกอีก นี้แหละถึงต้องยอมรับว่าเหล่านักแสดงนั้นต้องมีทั้งความสามารถและความอดทนจริงๆเลย
© therealve

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย btwinmylife