20 เรื่องราวที่บอกเราว่าที่เยอรมันเค้าใช้ชีวิตในแบบที่เราคาดไม่ถึงขนาดไหน

หลายคนที่ได้มีเพื่อนหรือได้รู้จักกับชาวเยอรมันก็จะรู้สึกได้ว่าพวกเค้านั้นช่างเป็นคนมีเสนห์ และหลายหลายคนก็ตกหลุมรักวัฒนธรรมของที่นี้ การขับรถ หรืออาจจะชื่นชมความรักสัตว์ของพวกเค้า และท่าทางหยอกล้อที่เค้าได้แสดงออกในการหยอกล้อเด็กเด็กของพวกเขา แต่ในด้านของการบริหารจัดการที่ตรงไปตรงมาเกินไป ก็อาจจะทำให้คนอื่นโมโหเอาได้

เราลองไปเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตในประเทศเยอรมันและขนบธรรมเนียมของพวกเขา แล้วคุณอาจจะอยากนำนิสัยหลายๆ อย่างมาประยุกต์ใช้ก็ได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูแปลกแค่ไหนในตอนแรกก็ตาม

1. การจราจรบนถนนทั้งหมดถูกควบคุมโดยระบบสัญญาณจราจร และสัญลักษณ์บอกทางบนท้องถนน ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านี้ ก็บอกให้คุณไปผิดทางได้ ดังนั้นอย่าไว้ใจป้ายบอกทาง เพราะพวกมันอาจจะพาคุณไปยังที่ที่คุณคิดไม่ถึงก็ได้ ผู้ใช้ Pikabu แบ่งปันสถานการณ์ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็น “มีสัญญาณจราจรมากมายบนถนน เมื่อไม่นานมานี้มีการทำถนนและทางเดินใหม่แต่ ป้ายบอกทางยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนและนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น”

© Phil.gif / pikabu
มีรถหลายคันขับเข้ามาก่อนที่เครื่องหมายนี้จะถูกย้ายออกไป ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคนขับรถถึงพยายามขับรถเข้ามา ทั้งที่เห็นได้ชัดว่ามันถูกเปลี่ยนเป็นเขตทางเท้าไปแล้ว เพราะมีแม้กระทั่งสถานที่ก่อสร้างและขอบถนน! แต่เพื่อนชาวเยอรมันของฉันบอกฉันว่า “สำหรับเราอาจจะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทาง แต่ไม่ใช่สำหรับชาวเยอรมัน เพราะป้ายสัญญาณยังบอกมาเราสามารถมาทางนี้ได้และ นั้นคือเหตุผลที่ยังมีรถขับลงมาที่บันไดแห่งนี้”
© Phil.gif / pikabu

2. พวกเขาต้องการอากาศที่สะอาดโดยใช้รถยนต์ที่ “สะอาด” เท่านั้น
คณะกรรมการพิเศษจะตรวจสอบและกำหนดหมายเลขให้รถแต่ละคัน โดยที่ตอนนี้หมายเลข “6” คือเครื่องหมายว่ารถคันนั้นมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงที่สุด 2-3 ปีที่ผ่านมาหมายเลข 4 เป็นคะแนนที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เกณฑ์เหล่าจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งคุณสามารถดูหมายเลขเหล่านี้ได้บนกระจกหน้ารถของรถทุกคัน และหากว่ารถคันไหนไม่มีหมายเลข แสดงว่ารถยนต์คันนั้นได้รับคะแนนต่ำที่สุด รถยนต์เหล่านี้จะไม่มีสิทธิ์ขับขี่ในพื้นที่ส่วนกลางของเมืองต่างๆ

3. ชาวเยอรมันมีความอดทนสูงมากโดยเฉพาะตอนขับรถ

© ASSOCIATED PRESS / East News
ไม่ว่าปริมาณรถติดจะหนักแค่ไหนก็ตาม ไม่มีใครพยายามเปลี่ยนเลนไปมาระหว่างขับรถเลย ถึงแม้ว่ารถคันอื่น ๆ จะไปได้เร็วกว่ามากในเลนอื่นๆ และถ้าคุณพยายามที่จะเปลี่ยนแลน คนขับคนอื่นๆ ก็จะอนุญาตให้คุณทำและจะไม่ใช้เสียงแตรเพื่อแสดงความขุ่นเคืองใดใดทั้งสิ้น ที่ไม่ทำการเปลี่ยนเลนไปมาเพราะแนวคิดที่ว่า พฤติกรรมประเภทนี้ไม่ได้เป็นทางออกที่ดีเลย และนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะมีรถติดตามตุดต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งนี้เองที่ทำให้เราเห็นภาพที่น่าแปลกใจมากสำหรับชาวต่างชาติ “ระหว่างที่รอนานกว่า 2 ชั่วโมง เราเริ่มเห็นคนขับและผู้โดยสารเริ่มที่จะออกจากรถ เจ้าของสุนัขพาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น เด็กๆ วิ่งเล่นรอบรอบรถ และชายคนหนึ่งเริ่มทำความสะอาดรถ เมื่อรถเริ่มเคลื่อนไป ทุกคนกลับขึ้นบนรถไม่มีใครพยายามเปลี่ยนเลน  และขับต่อไปลำดับเหมือนเดิมก่อนหน้า” เหลือเชื่อจริงจริง

4. สัตว์เลี้ยงมีสิทธิ์และความคุมครองมากแบบไม่น่าเชื่อ
© Wiese / face to face / FaceToFace / REPORTER/ East News
เยอรมนีกลายเป็นประเทศแรกที่สัตว์ต่างๆ ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายตั้งแต่ปี 2002 ชาวเยอรมันพยายามปฏิบัติต่อสัตว์เหมือนมนุษย์ ที่นี้คุณจะพบว่าผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เด็กๆส่งเสียงรบกวนที่สวนสัตว์เมื่อเห็นสัตว์ในกรงนอนหลับ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสารเคมีในครัวเรือนจะไม่ถูกทดสอบกับสัตว์ และพวกมันไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของคณะละครสัตว์ได้

สำหรับสัตว์เลี้ยง เจ้าของสามารถพาพวกมันไปที่ร้านค้าในท้องถิ่นและห้างสรรพสินค้าแค่ต้องมีสายจูง

© shamutrainer2b / reddit
บริกรที่ร้านกาแฟหรือร้านอาหารจะนำชามใส่น้ำให้แก่สุนัขของคุณ นายจ้างบางรายยอมให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงมาทำงานด้วย และบางครั้งเด็กๆ ก็สามารถพาสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไปที่โรงเรียนอนุบาลได้ แม้แต่โรงพยาบาลบางแห่งก็อนุญาตให้สุนัขมาเยี่ยมผู้ป่วยได้

6. สุนัขที่นี้ไม่เห่าโดยไม่มีเหตุผล

© Ortizoscar94 / reddit
“คุณจะพบที่จอดสุนัขแบบนี้ได้ทั่วไป”
สุนัขเกือบทั้งหมดจะถูกฝึกมาอย่างดี มันแทบจะไม่สนใจคนแปลกหน้าที่อยู่บนท้องถนนเลย ดังนั้นคุณแทบจะไม่ได้ยินสุนัขเหล่านี้เห่าแบบไร้เหตุผลเลย และหากคุณบังเอิญไปเจอเค้า เจ้าของสุนัขจะรีบขอโทษคุณทันทีเพราะนั้นแสดงว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้นยังดูแลหรือฝึกสัตว์เลี้ยงของเค้าได้ไม่ดีพอ ที่นี่เจ้าของสุนัขต้องจ่ายภาษีให้กับสุนัขของพวกเขาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 840-3500 บาทต่อปี

7. เป็นเรื่องแปลกมากถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงเพียงตัวเดียวที่บ้าน

ชาวเยอรมันเชื่อว่าเราจะต้องมี “สัตว์ 2 ตัวที่อยู่เป็นคู่กัน” เพราะสัตว์เลี้ยงตัวเดียวจะรู้สึกเบื่อที่จะอยู่คนเดียวดังนั้นมันจึงต้องการเพื่อน ชาวเยอรมันมักจะมีแมว สุนัขหรือกระต่ายอยู่หลายตัวที่บ้าน เพื่อนของเราหลายบอกเล่าข้อมูลในบล็อกของเธอว่า “ถ้าฉันบอกคนอื่นว่าฉันมีแมวตัวเดียว พวกเขาจะคิดว่าฉันแปลกประหลาด” พวกเขาจะบอกว่า “เฮ้ คุณไม่ยอมให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีเพื่อนได้ยังไง”

8. ผู้หญิงเยอรมันสมัยใหม่เริ่มออกมาทำงานและไม่ได้ทำหน้าที่เลี้ยงลูกหรืออยู่ดูแลบ้านอีกต่อไป
ผู้หญิงหลายคนอุทิศตัวเองอย่างเต็มที่ในการทำงาน และถึงแม้ว่าผู้ปกครองสามารถลาหยุดโดยได้รับค่าจ้างจนกว่าลูกของพวกเขาจะอายุ 3 ขวบ แต่ส่วนใหญ่ก็จะสมัครใจห้บุตรหลานของตนเข้าโรงเรียนอนุบาลตั้งแต่อายุ 6 เดือน
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ อย่างเช่นพี่เลี้ยงเด็กที่เลี้ยงเด็กที่จะรับเลี้ยงหรือดูแลเด็กไม่เกินครั้งละ 5 คน พี่เลี้ยงของเราออกแบบบ้านของเธอเองและเปลี่ยนสวนของเธอเป็นสนามเด็กเล่น ลูกของเรามองว่าเธอเป็นเหมือนญาติคนหนึ่ง เธอยังเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงเด็กที่อายุแตกต่างกันให้สามารถเล่นด้วยกัได้  บางครั้งเด็กๆ จะเล่นกับสิ่งของธรรมดาๆ เช่น ตะกร้าซักผ้า กล่องกระดาษแข็ง หรือไม้หนีบผ้า และเด็กๆ ก็ทำแบบฝึกหัดต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ของพวกเขา เราให้พวกเขาปลูกต้นไม้ และทำอาหารด้วยกัน”ซึ่งนั้นช่วยให้เด็กๆ ดูแลตัวเองและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่คุณคิด

9. หากคุณมีแผนที่กำลังจะไปเยี่ยมเพื่อนชาวเยอรมันที่บ้าน คุณควรทานอาหารที่บ้านตัวเองให้เรียบร้อยก่อน
ชาวเยอรมันมันเสริฟพาสต้ากับสลัดมันฝรั่ง หรือเครื่องดื่มกับมันฝรั่งทอดเพื่อฉลองวันเกิด ที่นี่คุณอาจได้รับเชิญไปยังสถานที่ที่เรียกว่า Abrissparty ซึ่งเป็นปาร์ตี้ที่ผู้คนจัดขึ้นเมื่อพวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใหม่ เค้าจะเชิญแขกก่อนวันงานอย่างน้องหนึ่งเดือน แต่เมื่อคุณไปถึงที่นั่นคุณมีแนวโน้มที่จะพบกับเครื่องดื่มจำนวนมากและแทบไม่มีอาหารเลย

10. การจองเก้าอี้อาบแดดในวันหยุดถือเป็นการแข่งขันเล็กๆ น้อยระหว่างเพื่อนบ้าน

บ้างครั้งคุณอาจจะพบการจองเก้าอี้อาบแดดที่มีผ้าเช็ดตัวจองไว้ตั้งแต่เช้า แต่ไม่พบเจ้าตัวสักทีทั้งที่รอดูอยู่เป็นชั่วโมง เพราะคนเหล่านี้มักไปทานอาหารเช้า เดินเล่น หรือไปที่ห้างสรรพสินค้าก่อนที่จะมานั่งอาบแดด เมื่อเค้าต้องการ ที่สำคัญคือจะไม่มีใครไปเอาผ้าเช็ดตัวนั้นออกไป แม้ว่ามันจะไม่มีใครมาที่เก้าอี้นั้นทั้งวันก็ตาม

12.ชาวเยอรมันมองว่าบ้านของพวกเขาเป็นพื้นที่ส่วนตัวและพวกเขาไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามา ดังนั้นการเชิญเพื่อนร่วมงานหรือคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านของ ถือเป็นเรื่องที่แปลกมากคนส่วนใหญ่มักจะนัดเจอกันที่ร้านกาแฟ หรือ ร้านอาหาร

13. มีกฎแปลกเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวในแถวชำระเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ต

© East News
หากคุณอยู่ในแถวชำระเงินพร้อมกับรถเข็นที่เต็มไปด้วยสินค้า และมีลูกค้าอีกคนที่มีสินค้า 1-2 ชิ้นมารอจ่ายเงินอยู่ข้างหลัง คุณจะเห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อเลยนั้นคือ เค้าจะเรียกให้คนที่ซื้อของน้อยกว่าที่ต่อหลังอยู่ขึ้นไปจ่ายเงินก่อน

14. เด็กสวมเสื้อผ้าที่สกปรกเมื่อไปโรงเรียนอนุบาล

© SOLARPIX.COM / East News
หากคุณสังเกตเห็นเด็กที่แต่งตัวดีเล่นกับเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียนอนุบาล คุณมั่นใจได้เลยว่านั้นไม่ได้เป็นเด็กชาวเยอรมันแน่นอน หญิงสาวคนหนึ่งเล่าเรื่องราวนี้ให้เราฟังว่า “ลูกสะใภ้ของฉันเจอเสื้อเด็กที่ร้านค้าราคาประหยัดแต่มันมีรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า เธอจึงปฏิเสธที่จะซื้อมัน พนักงานขายชาวเยอรมันประหลาดใจและพูดว่า “แต่คุณกำลังจะซื้อมันเพื่อให้เด็กใส่ไปโรงเรียนอนุบาลทำไมมันถึงสำคัญในเมื่อตอนเย็นลูกของคุณจะกลับมาพร้อมรอยเปื้อนรอยใหม่อยู่แล้ว”

15. เด็กๆ ในเยอรมนีไม่ได้ดูเรียบร้อยเสมอไป

© palektet / pikabu
เนื่องจากโรงเรียนที่นี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน ดังนั้นเด็กทุกคนจึงสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืดได้ตามต้องการ เด็กผู้หญิงไม่ชอบหวีผม และคุณแทบจะไม่เห็นเด็กผู้หญิงที่ไว้ผมยาวเลย สิ่งนี้เป็นเพราะเด็กๆ ถูกสอนให้เป็นอิสระตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงควรเลือกการแต่งตัวและทรงผมของตัวเองได้ นอกจากนี้ผู้ปกครองจะไม่ไปรับลูกๆ หลังเลิกเรียนถึงแม้ว่าโรงเรียนจะอยู่ใกล้กับบ้านก็ตาม แม้แต่นักเรียนประถมก็กลับบ้านกันเองโดยไม่มีผู้ปกครองไปรับเลย

17. ทุกคนซื้อประกันภัยส่วนตัวแต่อาจเลือกความคุ้มครองที่แตกต่างกัน
เหตุผลที่ทุกคนมีประกันเป็นเพราะค่าใช้จ่ายทางการแพทย์มีราคาสูงมาก และบ้างครั้งความคุ้มครองที่ไม่ครอบคุ้มความปลอดภัยต่าง ๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อวิธีการใช้เวลาในวันหยุดของคุณ ตัวอย่างเช่น “แม่สามีของฉันอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี เมื่อสามีของฉันและฉันไปเยี่ยมเธอ เย็นวันหนึ่งเราต้องการเล่นวอลเล่ย์บอลกับเพื่อนใหม่ของเรา แต่แม่สามีของฉันไม่ยอมให้เราไปเล่นเพราะเราจะไม่ได้รับค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บ”

18. ผู้คนไม่ต้องสวมเสื้อผ้าในห้องซาวน่าสาธารณะ และชาวเยอรมันส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่เลย

คนอื่น ๆ อาจจะคลุมตัวเองด้วยผ้าเช็ดตัวในห้องซาวน่า แต่ชาวเยอรมันไม่ชอบทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัย ชาวเยอรมันเชื่อว่าจะดีกว่าหากให้เหงื่อออกโดยไม่มีเสื้อผ้า นิสัยนี้อาจเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีประสบการณ์  มีกฎอีกข้อหนึ่งคือ ลูกค้าทุกคนต้องนั่งบนผ้าเช็ดตัวหรือผ้าปูที่นอนเพื่อให้ร่างกายที่เปลือยเปล่าไม่สัมผัสกับม้านั่ง มิฉะนั้นพวกเขาจะได้รับคำเตือนจากผู้อื่น

19. ชาวเยอรมันสามารถที่จะซื้อเวลาทำงานได้

© East News
ในเยอรมนี เวลาที่พนักงานใช้ในสำนักงาน พนักงานสามารถ “สะสม” ชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาและแม้แต่ซื้อเวลาจากบริษัทด้วยเงิน ตัวอย่างเช่น โบนัสรายปีมักจะเป็นเงินเดือน 3-4 เดือน หลายคนไม่ได้รับโบนัสทั้งหมดในรูปแบบของเงิน แต่แบ่งมันออกบางส่วนเพื่อ “ซื้อ”เวลาในอนาคตสิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาเกษียณได้เร็วขึ้น
ผู้ใช้ Pikabu ช่วยอธิบายให้เราฟังว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร “ถ้าฉันทำงานเพิ่ม 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ฉันจะได้รับ 108 ชั่วโมงภายใน 1 ปี จากนั้นเมื่อฉันได้รับโบนัสของฉันยังสามารถซื้อชั่วโมงเพิ่มอีก 100 ชั่วโมง ด้วยเงินประมาณ 98,000 บาท ผลก็คือฉันจะได้รับเวลาสะสม 208 ชั่วโมงทุกปี ดังนั้นถ้าทำแบบนั้นเป็นเวลา 20 ปี ฉันมีเวลาสะสม 4,160 ชั่วโมงซึ่งคุณสามารถใช้มันเป็นวันหยุดได้โดยที่คุณจะได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนในการหยุดยาว 22 เดือน ก่อนที่จะเกษียณ และถ้าฉันออกจากบริษัทก่อนที่ฉันจะเกษียณ ฉันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินหรือโอนไปยังกองทุนของนายจ้างคนใหม่ของฉันได้ด้วย

22. อาหารเย็นเรียกว่า “Abendbrot” ซึ่งแปลว่า “ขนมปังตอนเย็น”

© Aaron Hall / EyeEm / gettyimages
เด็กๆ เริ่มทานแซนวิชสำหรับทานอาหารเย็นตอนอายุหนึ่งขวบ แพทย์ถามคุณแม่ยังสาวว่าพวกเธอให้ลูกทานอาหารทั่วไปและให้… แซนวิช…หรือยัง
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนีแบ่งปันเรื่องราวของเธอในเรื่องนี้ “สามีของฉันถามฉันว่าเราจะกินอะไรเป็นอาหารค่ำ ฉันพูดว่า “ฉันไม่รู้ แซนวิชน่าจะเพียงพอแล้ว” เมื่อเขาได้ยิน เขาเข้ามาใกล้ฉัน วางแขนของเขาบนไหล่ฉัน มองเข้าไปในดวงตาของฉันด้วยความรัก และพูดว่า “ขอแสดงความยินดี ตอนนี้คุณกลายเป็นคนเยอรมันตัวจริงแล้ว”

เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่ดีและความหลากหลายของสนามกีฬาที่มีให้บริการฟรีรวมทั้งเส้นทางจักรยาน การไม่เล่นกีฬาในเยอรมนีจึงรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่แปลก ผู้ที่ไม่ว่างหรือขี้เกียจ ก็ยังดูรายการฟุตบอลหรือเทนนิส หรือสกี หรือตูร์เดอฟรองซ์ การที่คุณไม่มีกีาที่คุณสนใจเลยสักอย่างนั้นบ่งบอกถึงรสนิยมที่ไม่ดี

25. ในเยอรมนีมีกฎที่ไม่มีใครบอกแต่ทุกคนต้องทำ – นั้นคือไม่มีเสียงดังรบกวนในวันอาทิตย์
การดูดฝุ่น หรือตัดหญ้าในวันอาทิตย์จะได้รับคำเตือนจากเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน และไม่มีใครใส่ใจว่าวันอาทิตย์เป็นวันเดียวที่พวกเขาสามารถทำงานบ้านได้สำหรับคนจำนวนมากก็ตาม นอกจากนี้ยังมีชั่วโมงที่เงียบสงบในวันอื่นๆ อีกขึ้นอยู่กับแต่ละเมืองว่ามีการกำหยดช่วงเวลาสำหรับความเงียบเพื่อการพักผ่อนหรือไม

โบนัส: นี่เป็นภาพซากุระบานในประเทศเยอรมนี

© a5748487 / Reddit

คุณเคยรู้จักเพื่อนชาวเยอรมันบ้างไหม? หรือบางทีคุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางของคนอื่นที่เคยไปประเทศเยอรมนีบ้างไหมเล่าให้เราฟังในเพจของเรา?

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside เรียบเรียงโดย BTW