5 ท่าออกกำลังกายง่ายๆที่ทำตอนดูทีวีก็ยังได้

ทุกวันนี้เราแทบจะไม่ค่อยได้ออกไปไหนต่อไหนสักเท่าไหร่นักอาจจะเพราะอากาศที่ร้อนมากมากเมื่อออกไปข้างนอกก็ไม่อยากจะไปไหนนอกจากห้างหรือที่ที่มีแอร์เย็นๆเท่านั้นเอง แต่การที่จะไม่ได้ออกไปไหนแบบนี้ก็ทำให้เพื่อนเพื่อนของพวกเราหลายหลายคนเลือกที่จะนอนเปิดแอร์เย็นๆอยู่ที่บ้านซึ่งเราก็อยากจะบอกเพื่อนเพื่อนว่ามันก็คงดีแหละ แต่ยิ่งเราทำแบบนั้นไปบ่อยๆแล้วคุณเองก็อาจจะรู้สึกได้ว่าร่างกายของเรานั้นมันก็เริ่มที่จะเคลื่อนไหวได้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉงสักเท่าไหร่นัก แต่ในเมื่อเราจะออกกำลังกายนอกบ้านก็ไม่กล้าอีกทั้งการไปวิ่งตอนนี้ก็ยังร้อนเหลือเกินพวกเรา BTW ก็เลยมาลองนำเสนอท่าออกกำลังกายง่ายๆที่เพื่อนเพื่อนก็สามารถทำได้เองที่บ้านและยังช่วยให้เราขยับร่างกายได้กระฉับกระเฉงขึ้นมากอีกด้วย นอกจากนี้ท่าบริหารเหล่านี้ถ้าเพื่อนเพื่อนทำเป็นประจำแล้วละก็มันยังจะช่วยให้เพื่อนเพื่อนจัดการกับเหล่าบรรดาส่วนย้อยต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะน่าสนใจขนาดนี้แล้วก็ลองไปชมกันเลยดีกว่าเนอะ ท่าแรกนั้นแสนจะง่ายดายมากมากมันคือท่าการออกกำลังกายโดยการขยับฝ่ามือขึ้นลงนั้นเอง ท่าง่ายๆแค่นี้แต่กลับได้ผลที่น่าสนใจมากมากเลยนะเพราะมันจะช่วยให้เพื่อนเพื่อนขยับแขนได้คล่องแคลวมากขึ้นเลยนะ ทำก็ง่ายไม่ยุ่งยากเลยแค่เริ่มต้นจากการยืนตรงให้มั่นคงพอที่จะขยับตัวแล้วไปเอนไปด้านหน้าหรือหลังได้ง่ายๆ ยกแขนหางออกข้างลำตัวตามภาพ ศอกตั้งฉากและหงายฝ่ามือขึ้น จากนั้นก็เริ่มขยับยกมือขึ้นลงช้าๆไม่ต้องเร็วมาก อย่าลืมหายใจตามจังหวะที่ขยับมือข้นลง ทำท่านี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆได้เลยหนึ่งนาที ต่อมาในท่าที่สองกันเลยกับท่าตั้งการ์ด อย่างที่บอกเราไม่ต้องการความเร็วแต่เราต้องการความกระฉับกระเฉงดังนั้นท่านี้ก็ทำค่อยๆแต่อย่าช้ามา เริ่มต้นก็ทำเหมือนท่าแรกนั้นแหละคือเราต้องยืนให้มั่นคงและยกมือกางออกตั้งไม่ต้องขนานกับพื้นมากเหมือนท่าแรก จากนั้นก็แค่ค่อยๆขยับแขนทั้งสองข้างของเราเข้าหากัน อย่าลืมที่จะหายใจตามจังหวะขยับแขนเข้าออกด้วยนะ จากนั้นก็ค่อยๆกางแขนของเอาออกไปเหมือนท่าเริ่มต้น ง่ายๆเท่านี้เองนะเพื่อนเพื่อนก็เริ่มจากหนึ่งนาทีก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนรอบขึ้นให้เหมาะสมละ มาถึงท่าที่สามกันแล้วกับท่าจ๊อกกิงแต่ไม่ต้องวิ่งจริงๆออกไปไหนหรอกละ เพราะเราจะทำเหมือนกับการที่เราวิ่งไปแต่อันที่จริงแล้วแค่ขยับขาขึ้นลงให้อยู่กับที่เท่านั้นเองเริ่มต้นด้วยท่ายืนกางขาออกเล็กน้อยจากนั้นพับศอกขึ้นขนานกับพื้นทำมุมสามเหลี่ยมและฝ่ามือคว่ำลงจากนั้นก็ค่อยๆขยับยกขาของคุณขึ้นที่ละข้างสลับไปซ้ายขวาช้าๆไม่ต้องรีบจะเหมือนกับการวิ่งแต่จะเป็นการขยับอยู่กับที่เท่านั้นสิ่งที่สำคัญก็คือไม่ต้องเร่งและยกขาให้สม่ำเสมอและสูงให้ได้ถึงฝ่ามือเริ่มต้นสักหนึ่งนาทีก่อนและค่อยๆเพิ่มขึ้นตามที่คุณสามารถทำต่อเนื่องได้โดยที่ไม่เหนื่อย ท่าที่สามกันเลยกับสควอชโดยเราสามารถหาเก้าอี้มาช่วยได้ ต้องบอกเลยว่าท่าสควอชนั้นมีประสิทธิภาพอย่างมากเพราะมันคือการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่อีกทั้งยังช่วยกระฉับส่วนต่าง ๆได้ดีอีกด้วย แค่เริ่มจากที่มองหาเก้าที่ขนาดพอดีกับการนั่งของคุณมาวางไว้ด้านหลังจากนั้นก็ยืนกะระยะห่างให้ดีดียืนตัวตรงหันหน้าออกไปข้างหน้า จากนั้นก็ค่อยย่อตัวลงเหมือนกับกำลังจะนั่งแต่ทำอย่างช้าและพยายามอย่านั่งถึงเก้าอี้แล้วก็ขยับยืดตัวขึ้นกลับไปยังท่าเริ่มต้นทำซ้ำไปอย่างช้านำจำนวนที่คุณทำไหวแล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นที่ละน้อยๆ มาถึงท่าที่สี่กันแล้วท่านี้เราเรียกว่า Stepback ซึ่งมันก็เหมือนกันการขยับถ่อยไปข้างหลังนั้นเอง นอกจากจะเป็นท่าเคลื่อนไหวที่ทำให้เพื่อนเพื่อนออกกำลังกายแล้วท่านี้ยังช่วยทำให้เพื่อนเพื่อนมีสมาธิมากขึ้นอีกด้วยนะแถมใครที่รู้สึกว่าเวลานั่งนานๆแล้วปวดเมื่อยละก็ลองทำท่านี้ก็จะช่วยทำให้คุณค่อยๆรู้สึกดีขึ้น ...

เครื่องแต่งกาย 10 แบบที่สนามบินลงความเห็นว่าไม่แนะนำให้แต่งขึ้นเครื่องบิน

จากข้อมูลทางสถิติโลกกำหนดไว้ว่ามีจำนวนนักเดินทางที่เลือกการเดินทางโดยเครื่องบิน ตั้งแต่เดือนมกราคมมีผู้โดยสารมากกว่า 4.6 พันล้านคน แน่นอนว่าสำหรับคนจำนวนมากสนามบินและเครื่องบินเกือบจะเหมือนบ้านหลังที่สองของพวกเขา คนเหล่านี้รู้ความลับมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระหว่างเที่ยวบิน บางครั้งแม้แต่รายละเอียดที่ไม่สำคัญก็ดูเหมือนว่าสำคัญ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้า เราได้ตรวจสอบประสบการณ์ของนักเดินทาง และอ่านคำแนะนำจากนักบินและแพทย์ และเราพร้อมที่จะแบ่งปันความลับที่เราพบเกี่ยวกับการแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวบิน 1 เสื้อผ้าฟิตๆเกินไป ©Flower beauty Shop / aliexpress © depositphotos เที่ยวบินสร้างความเครียดให้ร่างกาย และทำให้หลอดเลือดของเราเกิดความเครียด เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงความดันและความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานในเก้าอี้ขนาดเล็ก สิ่งที่ทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกคือเสื้อผ้าที่คับ เนื่องจากการสวมใส่สิ่งที่แน่นเกินไปทำให้การไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพลดลง แพทย์ยังมีคำแนะนะสำหรับเรื่องนี้ มีวิธีการที่แก้ไขซึ่งแม้แต่การบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวของคุณเองก็ควรทำ ครั้งหนึ่งเลดี้กาก้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอเพราะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินขอให้เธอเปลี่ยน...

13 การแต่งตัวของผู้ชายที่ทำให้เสียภาพลักษณ์

จากความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแฟชั่นว่าผู้ชายไม่ชอบแต่งตัว แต่ความจริงแล้วผู้ชายไม่ได้สนใจแฟชั่นน้อยไปกว่าผู้หญิง และพวกเขาใช้เงินซื้อเสื้อผ้ามากกว่าผู้หญิงเสียอีก การสำรวจความแตกต่างของค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 300บาทต่อเดือน คุณอาจคิดว่ามันไม่มากนักจนกว่าคุณจะรู้ว่ามันเพิ่มขึ้นถึง 3,600 ต่อปีเป็นอย่างน้อย เราติดตามเทรนด์อย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เรามีคำแนะนำสำหรับคุณ นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับการแต่งตัวของผู้ชาย และเราจะช่วยให้คุณเป็นตัวท๊อปเสมอ 1. การสวมสายเอี๊ยมพร้อมเข็มขัด © shutterstock.com © shutterstock.com เสื้อผ้าสไตล์คลาสสิคนี้กลับมาเป็นแฟชั่นอีกครั้งแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่คำแนะนำแรกสำหรับวันนี้คือเรื่องเกี่ยวกับเสื้อเชิ้ตแบบ button-down : จะดูดีกว่าถ้าคุณสวมมันกับสายเอี๊ยมหรือเข็มขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับคุณที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกแบบใด แต่อย่าสวมใส่ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งสำคัญคือคุณควรเป็นคนที่มีส่วนสูงพอสมควรไม่อย่างนั้นแล้ว มันจะยิ่งทำให้คุณดูเหมือนเด็ก...

ทำไมหลายคนนอนหลับได้ในคืนที่อากาศร้อนแม้ต้องนอนใต้ผ้าห่ม

ความชอบถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรากะเกณฑ์คาดคะเนหรือไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ง่ายง่ายบางคนชอบทานอาหารพร้อมกับเปิดทีวีหรือเพลงฟังไปด้วย แต่กฌยังมีอีกหลายคนที่อาจจะชอบนั่งทานอาหารเงียบเงียบ หรือเพื่อนผู้ชายบางคนของเราที่คบกันมาเกือบ 20 ปีแล้วแต่ก็ยังคงชอบสะสมของเล่นโมเดลตัวการ์ตูนต่างๆที่หลายคนอาจจะมองว่ามันดูเด็กเกินไปแต่อันที่จริงแล้วพวกเราชาว BTW อยากจะบอกเพื่อนเพื่อนเอาไว้ว่าสิ่งต่างๆหรือความชอบต่างๆเหล่านี้นั่นเองที่ทำให้แต่ละคนมีกำลังใจในการทำงานหรือมีความสุขเมื่อได้มองเห็นสิ่งเหล่านั้นและนั่นก็เพียงพอแล้ว โดยที่เราอยากให้เพื่อนเพื่อนอย่าไปมองหรือประเมินคุณค่าในมุมมองของตัวเราเพราะว่าในอีกมุมหนึ่งที่ถูกมองมาจากสายตาของคนที่ชื่นชมชื่นชอบสิ่งเหล่านั้นแล้วมันล้วนเป็นสิ่งมีค่าสำหรับคนเหล่านั้นนั้นเอง และวันนี้พวกเราก็ได้นำเรื่องของความชอบอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการชอบนอนห่มผ้าห่มมาให้เพื่อนเพื่อนฟังเป็นความรู้กันสักหน้า เพราะมันมีเรื่องราวนาสนใจมากกว่าที่หลายหลายคนจะคิดถึง ที่เราอยากจะนำเสนอเรื่องนี้ก็เพราะว่าพวกเรานี่แหละที่เป็นแฟนตัวยงของผ้าห่มที่ต้องมีติดไว้ถึงจะนอนได้เลยยังไงละ สิ่งแรกเลยนั่นก็คือเจ้าผ้าห่มคือตัวช่วยในการปรับอุณหภูมิที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถมีไว้ในบ้านได้ เรื่องที่เป็นเพื่อนหลายคนอาจจะยังไม่ทราบนั่นก็คืออันที่จริงแล้วภายในร่างกายของเรามีระบบที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ใน. ที่เหมาะสมในตอนที่เราตื่นแต่ว่าได้ตอนที่เราหลับแล้วมันก็จะหยุดพักไปด้วย และในระหว่างที่เรานอนหลับพักผ่อนอยู่ก็จะเป็นการหยุดทำงานของหลายหลายสิ่งจึงทำให้อุณหภูมิของเราจะลดต่ำลงนั่นเองดังนั้นถ้าผมซักผืนก็จะช่วยทำให้ร่างกายของเรา ได้รับความอบอุ่นที่เพียงพอเพียงแต่ว่าคุณอาจจะต้องเลือกความหนาและชนิดของผ้าห่มให้เหมาะสมกับฤดูกาลเท่านั้นเอง อย่างในคืนที่อากาศร้อนก็อาจจะเลือกใช้ผ้าห่มที่มีขนาดบางสักเล็กน้อยก็พอและในวันที่อากาศหนาวก็เลือกที่มันหนานุ่มสักหน่อย ความเคยชินหนุ่มเค้าทำให้เราสามารถนอนหลับได้อย่างสบาย @ Pexels อย่างที่เราเคยบอกเพื่อนเพื่อนในหลายหลายบทความที่ผ่านมานั่นก็คือสัญชาตญาณและความเคยชินทำให้เรารู้สึกปลอดภัยหรือสิ่งของที่คุ้นเคยนั่นก็มีส่วนในการทำให้รู้สึกปลอดภัยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อนเพื่อนหลายคนของเราจึงมักจะนอนหลับสนิททันทีเมื่อได้อยู่ในห้องนอนที่คุ้นเคยหรือมีสิ่งของที่คุ้นเคยอย่างการห่มผ้าห่มเป็นต้น มาพูดถึงเหตุผลจากการศึกษากันสักหน่อยเพราะเราพบว่าผ้าห่มมีส่วนช่วยทำให้เราได้รับความรู้สึกปลอดภัย เป็นเพราะว่าเวลาที่เราห่มผ้าแล้วลึกลึกข้างในจะรู้สึกเหมือนได้รับการปกป้องจากสิ่งภายนอก เพราะว่าใครๆก็ต้องใช้ผ้าห่มด้วยคลุมตัวเราทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้านั้นแหละ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเกราะคุ้มกันบางอย่างจากสิ่งภายนอกนั่นเอง และเมื่อเรารู้สึกสบายใจเมื่อได้รับการปกป้องก็จะทำให้เราผ่อนคลายและหลับง่ายนั่นเอง ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งภายนอก © depositphotos.com จะบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ของการนอนที่ใครต่อใครก็น่าจะสังเกตได้ทันทีเมื่อเห็นภาพใครสักคนก็ตามที่กำลังห่มผ้าห่มอยู่ เราก็จะคิดว่าเค้าน่าจำกำลังนอนหลับอยู่ และเพราะคนอื่นๆสังเกตและรับรู้ได้ทันทีว่ามีคนนอนอยู่นี่แหละที่ทำให้คนเหล่านั้นจะระมัดระวังไม่ทำเสียงดังหรือไม่เข้าไปรบกวนคนที่กำลังอยู่ภายใต้ผ้าห่มนั้นแหละ เพราะความเชื่อในตอนเด็กทำให้เรารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ซ่อนตัวภายใต้ผ้าห่ม เพื่อนเพื่อนของเราหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์เดียวกันนี้ นั่นก็คือในตอนที่เรายังเด็กอยู่นั้นคุณพ่อคุณแม่มักจะเข้ามาบอกกับเราเสมอว่าภายใต้ผ้าห่มไม่มีอะไรสามารถเข้ามาทำอันตรายเราได้ซึ่งตอนที่เราเป็นเด็กน้อยมันก็ไม่แปลกที่เราจะเชื่อเรื่องเหล่านั้น และเจ้าความเชื่อเล็กๆตั้งแต่เด็กนั้นแหละ ที่ยังคงตรึงใจของเราอยู่ทำให้ถึงแม้ว่าเราจะโตขึ้นมามากแล้วแต่เวลาที่เราได้ห่มผ้า...

เทคนิคในการทำความสะอาด ที่จะทำงานบ้านไม่น่าเบื่อ

หลายครั้งที่เราอยากจะนอนในบ้านหรือที่พักในวันหยุดให้สบายทั้งวันแต่เจ้างานที่ยุ่งยากที่สุดของบ้านก็มักจะมากวนใจ ใช่แล้วสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและไม่มีวันหมดไปเลยนั้นก็คือการทำความสะอาดนั้นเอง เพื่อนๆ หลายหลายคนคงคิดเหมือนกัน เราต้องใช้ความพยายามและเวลาในการต่อสู้กับเหล่าคราบสกปรก ฝุ่น หรือแม้แต่จะเป็นจากการกำจัดคราบมัน ที่สกปรกที่ติดอยู่ที่ถาดหรือเครื่องครัว จนไปถึงการทำความสะอาดกระจกและฝุ่นละอองในรูเล็กๆ ในรถของคุณ ถ้าคุณเป็นคนรักความสอาด คุณคงต้องเตรียมพร้อมทำความสะอาดแบบนี้เสมอ และเราพร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนโดยการแบ่งปันเคล็ดลับการทำความสะอาดที่เรารู้ให้เพื่อน ๆ เผื่อว่ามันจะช่วยให้เวลาทำงานนั้นลดลงได้ พวกเราหลายหลายคนต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นและดีขึ้น นั่นคือเหตุผลที่เราไม่สามารถรอแบ่งปันเคล็ดลับที่แสนฉลาดเหล่านี้สำหรับวันทำความสะอาดครั้งใหญ่ครั้งต่อไปของคุณ และเรามั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและน่าพึงพอใจ! สำหรับการทำความสะอาดครั้งต่อไปของคุณอย่างแน่นอน 1. ทำให้ถาดเตาอบเก่าๆ ของคุณดูเหมือนใหม่ สิ่งที่คุณต้องการ: -เบกกิ้งโซดา -น้ำส้มสายชู ​ สิ่งที่ต้องทำ: -โรยเบกกิ้งโซดารอบๆ ถาดเตาอบสกปรกจากนั้นก็เติมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยเพื่อให้ชุ่มเป็นก้อนแฉะๆ -หลังจากนี้ให้โรยเบกกิ้งโซดาลงด้านบนแล้วปล่อยทิ้งไว้สองสามชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ...

5 เคล็ดลับการแต่งกายเพิ่มโอกาสในการสัมภาษณ์งานของคุณ

ตามสถิติของการสัมภาษณ์งานผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ 30 วินาทีแรกของการสนทนา เป็นเหตุผลหลักของการตัดสินใจเลือกผู้สมัครงาน เนื่องจากพวกเขาสามารถประเมินมารยาทและคุณลักษณะภายนอกในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งหมายความว่าเครื่องแต่งกายมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่รู้ว่านายจ้างจะไม่ชื่นชมกายแต่งที่ไม่เป็นระเบียบ ขาดรสนิยม และชุดที่เปิดเผยเกินไปแต่นี่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด พวกเราตัดสินใจที่จะเก็บข้อมูลจากผู้จ้างงานว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับเสื้อผ้าของผู้สมัคร และวิธีการแต่งตัวแบบใดจะมีผลต่อการตัดสินใจของพวกเขา 1. สีเสื้อผ้าของคุณมีอิทธิพลต่อการที่คนอื่นมองคุณ ผลสำรวจจากเว็บไซต์หางานที่ใหญ่ที่สุดชื่อ CareerBuilder พบว่านายจ้างคิดอย่างไรกับสีเสื้อผ้าของผู้สมัครที่มาสัมภาษณ์งาน ปรากฏว่าสีเทาบ่งบอกความเป็นมืออาชีพและการคิดอย่างมีตรรกะ ส่วนคนที่สวมชุดขาวถูกมองว่าเป็นผู้มีระเบียบมาก ขณะที่ชุดสีดำแสดงถึงความเป็นผู้นำ สุดท้ายคือชุดสีม่วงและสีเขียวทำให้นายจ้างรับรู้ถึงความมั่นใจและสร้างสรรค์ สีส้มถือเป็นสีที่ “ไม่เป็นมืออาชีพ” มากที่สุด 2. เสื้อผ้าสีสดเกินไปอาจถูกมองว่าเป็นการดึงดูดความสนใจเกินไป เสื้อผ้าสีสดและดูฟุ่มเฟือยเกินไปนั้นบ่งบอกถึงความปรารถนาที่อยากจะดึงดูดความสนใจจากผู้สัมภาษณ์ และสิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อความรู้สึกของผู้สัมภาษณ์ ทำให้พวกเขาอาจเริ่มสงสัยเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่แท้จริงของคุณ...

9 เทคนิคทางจิตวิทยา ที่หลอกสมอง ให้หลงทำตามในสิ่งที่เราต้องการ

ต้องบอกว่าเรื่องราวการอธิบายถึงอคติหรือความผิดพลาดในกระบวนการคิด ความผิดพลาดเหล่านี้จะโน้มน้าวเราถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ถ้าคุณรู้เกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆเหล่านี้ คุณจะสามารถคาดการณ์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้ง่ายขึ้น และพวกเราจะปลอดภัยจากกลอุบายที่นักการตลาดและพนักงานขายใช้กับเรา เพราะกลยุทธ์ของพวกเขาขึ้นอยู่กับผลกระทบทางด้านจิตวิทยาเหล่านี้ พวกเราอย่างนี้ก็ได้ ได้อ่านบทความมากมายและเราต้องการให้คุณรู้เกี่ยวกับกลทางจิตวิทยาที่สมองของเราสามารถเล่นตลกกับเราได้ 1. กฎ Yerkes - Dodson (ซ้าย: ว้าว, ฉันไม่รู้เลยว่าจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้  ขวา: รางวัลตั้ง 150,000 บาท ฉันต้องชนะ) สิ่งที่เป็นแรงจูงใจมีอิทธิพลต่อผลการทำงานว่าเราจะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ แน่นอนว่าถ้าเราไม่มีแรงจูงใจเพียงพอเราก็ไม่น่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี แต่กฎของ Yerkes - Dodson กลับบอกว่าถ้าคุณมีแรงจูงใจมากเกินไปผลที่ได้อาจจะก็จะลดลงได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นนักกีฬาที่ถูกผลักดันด้วยรางวัลเพียงอย่างเดียวอาจทำผลการแข่งขันได้ไม่ดี...

17 การค้นพบของชาวเน็ต ที่น่าสนใจและเราไม่เคยรู้

บางทีสิ่งที่เราคิดว่ารู้จักดีอยู่แล้ว แต่จริงๆแล้วเรากลับไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับมันเลย แต่บางคนก็มีความสามารถในการค้นหารายละเอียดที่น่าสนใจและนำมาเผยแพร่ให้เราได้เห็น ทำให้เราค้นพบอะไรใหม่ๆที่ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีผู้คนจากสื่อสังคมออนไลน์เช่น ผู้ใช้ Reddit หรือผู้ใช้ทวิตเตอร์ ได้แบ่งปันการค้นพบเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสิ่งที่พวกเขามีไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆเช่นการคิดค้นวิธีปกป้องแป้นพิมพ์จากแมว ในขณะที่คุณ Work from home  หรือวิธีเก็บของอย่างสร้างสรรค์ในตู้เย็น พวกเรา BTW ชอบที่จะค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ๆเกี่ยวกับโลกใบนี้ เราจึงได้ทำการค้นหาเรื่องที่น่าสนใจในโลกโซเชียลให้เพื่อนๆของเราได้เปิดมุมมองใหม่ๆ และค้นพบวิธีที่น่าสนใจเหล่านี้ ช่วงนี้พวกเราต้องทำงานแบบ Work from home...

นักจิตวิทยาบอก 16 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณอ่านใจคนได้อย่างนักสืบโคนัน

เมื่อเราพูดคุยกับคนอื่นๆ เราสามารถได้รับข้อมูล 30% ของข้อมูลทั้งหมดผ่านทางคำพูดของพวกเขา ส่วนข้อมูลที่เหลือ อีก 70 % เราสามารถดูได้จากการเคลื่อนไหวของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงและการสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูดอื่นๆ ดังนั้นหากคุณต้องการทราบว่าเพื่อนของคุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลาใดก็ตาม คุณควรที่จะดูใบหน้าของพวกเขา โดยเอาใจใส่เป็นพิเศษและคุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับพวกเขา พวกเราได้จัดทำคู่มือสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีการ “อ่าน” ใบหน้าของผู้คนไว้ในบทความนี้ สังเกตุจากคิ้ว -คิ้วที่เลิกขึ้นและโก่งโค้งอาจหมายถึงว่าบุคคลนั้นประหลาดใจ และยิ่งพวกเขาประหลาดใจมากเท่าไหร่คิ้วของพวกเขาก็จะยิ่งยกคิ้วสูงขึ้น การเลิกคิ้วเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดกว้างและดึงดูดคุณ -คิ้วที่ต่ำลงและขมวดเข้าหากันมักเป็นสัญลักษณ์ของความโกรธ โดยปกติคุณจะเห็นริ้วรอยแนวตั้งระหว่างคิ้ว -มุมด้านในของคิ้วที่ขมวดเข้าหากันและเลิกขึ้นพร้อมกันแสดงถึงความเศร้า ตา -การมองขึ้นด้านบนและทางด้านขวา อาจเป็นการบ่งบอกว่าคนหนึ่งกำลังพยายามใช้จินตนาการของพวกเขาหรือพวกเขากำลังโกหก -การมองขึ้นและไปทางซ้ายหมายความว่าบุคคลกำลังจดจำหรือระลึกถึงบางสิ่งบางอย่าง -การมองลงต่ำอาจบ่งบอกว่าคนๆ นั้นรู้สึกอาย ประหม่า หรือมีความนับถือตนเองต่ำ...

12 วิธีที่จะช่วยคุณคำนวนค่าใช้จ่าย และช่วยเก็บเงินเพื่อให้ได้สิ่งที่คุณฝันถึง

เก็บก่อนใช้ที่หลังเป็นวิธีที่หลายคนบอกเราเสมอแต่เราก็ทำไม่ได้ วันนี้พวกเราเลยอยากจะให้เพื่อนเพือนทุกคนมาลองวิธีการที่ต่างเคยได้ยินอีกเรื่องหนึ่งนั้นก็คือการคำนวณรายรับและรายจ่ายของเรา แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมองข้ามสิ่งเหล่านั้นเพราะมันไม่ได้ทำให้เราร่ำรวยขึ้นได้ พวกเราส่วนใหญ่ยังคงใช้เงินต่อไปแบบไม่มีแผนการใช้เงิน ทันทีที่เราได้รับมันมา นี่คือเหตุผลที่พวกเราตัดสินใจหาเคล็ดลับที่ง่ายๆและมีประสิทธิภาพที่สุดที่จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการซื้อของที่อาจไม่เกิดประโยชน์และนี้จะทำให้คุณพูดว่า “อันนี้แหละ” เพื่อการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล 1. เห็นภาพ มันเป็นยังไงหรือ? จากภาพนั้นแสดงให้เห็นว่านักการตลาดทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อทำให้คุณเห็นสินค้าแล้วต้องการซื้อ นี่คือสาเหตุที่ห้องลองชุดอยู่ในมุมที่กว้างที่สุดของร้านค้าและสินค้าราคาแพงที่สุดอยู่ในระดับสายตาของคุณ ในคลังของพวกเขามีผลิตภัณฑ์ที่มีโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคา คูปองส่วนลด สร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมที่น่าพอใจ และเพลงเพราะๆ อะไรคือสิ่งที่ควรทำ -ตัวเลือก 1. ทำ “การทดสอบโดยคิดว่าเราเป็นคนอื่น ๆ” คุณต้องการชุดใหม่หรือไม่? ลองนึกภาพว่ามีคนอยู่ข้างหน้าคุณถือสิ่งที่คุณต้องการซื้อในมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างของเขาถือเงินสดที่เท่ากับราคาของอันนี้ คุณจะเลือกอันไหน หากคุณต้องการเงินมากกว่านั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องการสินค้านั้นมากนัก -ตัวเลือก...

7 สถานการณ์ที่คุณอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกทดสอบขณะสัมภาษณ์

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ใครที่กำลังมองหางานใหม่หรือจะเรียกว่าอยากจะพัฒนาตัวเองในหน้าที่การงานแล้วละก็คงเป็นช่วงเวลาที่หลายคนกำลังส่งเรซูเม่และไปคุยตามออฟฟิสต่าง ๆ อย่างแน่นอนและในโลกปัจจุบันการคัดเลือกพนักงานจากการดูแค่โปรไฟล์ของผู้สมัครและการสัมภาษณ์แบบมาตรฐานทั่วๆไป นั้นไม่เพียงพอในการหาพนักงานที่สมบูรณ์แบบ นั่นเป็นเหตุผลที่นายจ้างต้องใช้เทคนิคบางอย่าง และส่วนใหญ่นั้นเรียบง่ายมากดังนั้นผู้สมัครอาจไม่ผ่านการทดสอบทางจิตวิทยานี้และไม่ทันสังเกตว่าได้ถูกทดสอบด้วยซ้ำ พวกเรารู้สึกประหลาดใจ ที่ได้รู้ว่า กาแฟหรือน้ำชานั้นเป็นการทดสอบและเป็นส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของผู้สมัครงาน 1.กาแฟหนึ่งแก้วนั้นมีเหตุผล เมื่อเร็ว ๆ นี้การทดสอบด้วย“ ถ้วยกาแฟ” ได้รับความนิยมในหมู่นายจ้าง ในตอนต้นของการสัมภาษณ์หัวหน้าจะนำผู้สมัครเข้าครัวและเสนอกาแฟหนึ่งแก้วให้พวกเขา และหลังจากการสัมภาษณ์นายจ้างจะคอยสังเกตว่า สิ่งที่ผู้สมัครจะทำกับถ้วยกาแฟ เช่น พวกเขาจะถามว่าจะเก็บมันไว้ที่ไหน พวกเขาจะวางทิ้งไว้บนโต๊ะ หรือพวกเขาจะล้างมันด้วยตัวเองในห้องครัว หัวหน้า บริษัท พัฒนาซอฟต์แวร์บัญชี“ Xero Australia” Trent...

7 ท่าทางการแสดงออกที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่น่าคบหา

หลังจากที่เราได้พบเจอผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาหาเราในแต่ละวันแล้วก็ต้องพบว่า กับบางคนเราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจมากมาก แต่กับบางคนแล้วอยู่ด้วยกลับรู้สึกอึดอัดอยากที่จะขยับตัวออกห่าง หรือกับบางคนแค่ได้มองอยู่ไกลๆก็เห็นถึงความน่ารักและมีเสน่ห์ของเค้าเหล่านั้นก็มี หลายคนก็บอกว่าเราทำบุญมาไม่เท่ากันมันก็เลยได้ผลออกมาแบบนี้ไม่เท่ากันยังไงละซึ่งเราฟังแล้วก็ไม่ค่อยจะเห็นความเชื่อมโยงกันสักเท่าไหร่ พวกเรา BTW ก็เลยอยากจะไปลองหาเรื่องราวหรือข้อมูลอะไรสักอย่างที่จะสามารถบอกพวกเราได้แบบมีหลักการมากขึ้นสักหน่อย เพราะพวกเรา BTW เชื่อกันว่าทุกอย่างมันต้องสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุและผลที่เหมาะสมนั้นเอง ซึ่งพวกเราก็ได้พบกับเรื่องราวของการใช้ท่าทางหรือภาษากายนั้นเองที่พอจะเอามาอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ได้ว่าทำไมนะพวกเราถึงรับรู้หรือรู้สึกกับคนที่เพิ่งพบกันแตกต่างกันไปนั้นเอง มาเริ่มจากเรื่องง่ายอย่างการมองสบตากันเลยดีกว่า เป็นเรื่องธรรมดามากมากที่เวลาเรามองหน้าหรือพูดจากันนั้นเราอาจจะต้องผสานหรือสบตากันกับคู่สนทนา แต่เพื่อนเพื่อนทราบกันไหมละว่าการสบตาที่ดีนั้นก็มีช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่เพิ่งพบกันไม่นานเวลาเพียงแค่ สามถึงห้าวินาทีในการมองสบตากันนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพราะห่างคุณจ้องมองนานกว่านั้นคนที่ถูกมองก็จะรู้สึกอึดอัดได้แล้ว และเสริมอีกส่วนหนึ่งนั้นก็คือเวลาที่คุณมองไปที่ใบหน้าเวลาสนทนานั้นหากไม่มองสบตาแล้วละก็เราขอแนะให้เพื่อนเพื่อนลองมองไปที่จมูกแทนเพราะหากมองสูงเช่นหน้าผากคุณจะเหมือนไม่สนใจเค้า และห่างมองต่ำลงไปกว่าจมูกจะทำให้รู้สึกว่าคุณสนใจอย่างอื่นๆมากกว่าบทสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเอง การเว้นช่วงเวลาหลังจากเพิ่งพบกันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวจะทำให้รู้สึกสบายใจกว่า อีกเรื่องหนึ่งเลยนั้นก็คือช่วงจังหวะในการเริ่มการสนทนา หลังจากที่ได้พบหน้าทักทายกันแล้วให้เวลาอีกฝ่ายได้ผ่อนคล้ายจากหลายหลายอย่างก่อนเช่น เค้าอาจจะต้องการนั่งลงหรือแขวนเสื้อนอกให้เรียบร้อยแล้วจึงค่อยเริ่มบทสนทนาก็ยังไม่สายเพราะการเร่งรีบที่จะพูดนั้นกลับทำให้อีกฝ่ายเกิดความกังวลนั้นเอง ท่าทางการนั่งและการวางเท้าก็ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นได้ หนึ่งในความรู้สึกที่แสดงออกเมื่ออยู่กับใครสักคนนั้นก็คือระยะห่างที่เรานั่งหรือยืนอยู่กับบุคคลนั้นนั้นเอง ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าเพื่อนใหม่ของคุณนั่งห่างออกไปหรือนั่งพิงเก้าอี้ไปที่ด้านหลังนั้นแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจนั้นเอง ดังนั้นการค่อยพูดเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างเรื่องที่อีกฝ่ายชอบจะเป็นการดีที่จะทำให้อีกฝ่ายเปิดใจและค่อยๆขยับเข้าหา แต่ในทางกลับกันการที่คุณขยับตัวหรือนั่งแล้วมีส่วนหนึ่งส่วนใดเช่นแขนหรืออาจจะเป็นขายื่นขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปจะช่วยทำให้รู้สึกสนิทกันมากขึ้น การพูดสื่อสารอาจจะเป็นการกระทำที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าแสดงออก ในบางโอกาสที่ได้พบเจอเพื่อนใหม่นั้นบ้างครั้งการถามคำถามเพื่อขอความคิดเห็นก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดได้เพราะเค้ายังไม่พร้อมหรือไม่สนิทใจพอที่จะให้คำแนะนำอะไร แต่การถามด้วยท่าทางอย่างการถามถึงสิ่งที่เราทำด้วยท่าทางการยกมือว่าสิ่งนี้มัน ok ไหม...