ทำไมการใส่กระดาษเปียกในเครื่องซักผ้า จึงช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้

โดยปกติคนทั่วไปมักจะใช้เวลาซักผ้าประมาณ 4 ชั่วโมงต่อหนึ่งสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการซักผ้าด้วยเครื่องหรือถ้าซักด้วยมือก็อาจจะนานกว่านั้น เราจะขอพูดถึงการซักผ้าด้วยเครื่องกันดีกว่า เพราะในขณะที่เครื่องซักผ้าที่ทันสมัยส่วนใหญ่ช่วยเราซักผ้าให้สะอาดและประหยัดเวลาได้มากแล้ว แต่มันก็ยังมีเคล็ดลับง่ายๆ อื่นๆ อีกที่เป็นวิธีที่มีประโยชน์ทำให้เราซักผ้าได้สะอาดรวดเร็วขึ้น อย่างเช่นถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงหรือมีเสื้อผ้ามีสีเข้มจำนวนมาก เราขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ เพียงนำกระดาษเปียก(wet wipes)เข้าไปซักรวมกับเสื้อในเครื่องซักผ้าก่อนที่จะบรรจุเสื้อผ้าของคุณเข้าไปข้างในแล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของการซักผ้าว่ามันสะอาดแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

พวกเราสงสัยเกี่ยวกับเคล็ดลับนี้และตัดสินใจลองด้วยตัวเอง และเราต้องยอมรับว่าผลลัพธ์สุดท้ายเกินความคาดหวังของเราจริงๆ

เริ่มจากขุยบนเสื้อหรือ รอยขนม้วนของเจ้าสัตว์เลี้ยงของเรา มันไม่มีขุยบนเสื้อผ้าของเรามากเท่าก่อนหน้านี้

กระดาษเปียก(wet wipes)ช่วยกำจัดขุยและผมออกจากเสื้อผ้า เพราะพวกมันทำหน้าที่เป็นผ้าชิ้นเล็ก ๆ ที่ดูดซับและทำความสะอาด ขนและผม เอาไว้แทนเสื้อของเรานั้นเอง อนุภาคส่วนใหญ่ของเส้นผมและขนเกือบทั้งหมดจะไปอยู่บนกระดาษเปียก(wet wipes) ดังนั้นเสื้อผ้าจึงดูสะอาดกว่าก่อนหน้านี้และคุณไม่จำเป็นต้องรวบรวมเศษขุยเหล่านี้ออกจากเสื้อผ้าของคุณในภายหลังอีกต่อไป

เริ่มสนใจแล้วละสิว่าต้องทำอย่างไร

วิธีการนั้นแสนจะง่ายได้ เพียงแค่ใส่กระดาษเปียกไม่เกิน 3 แผ่นลงในเครื่องซักผ้า เมื่อเครื่องเริ่มหมุนกระดาษเปียกจะผสมกับเสื้อผ้าและเก็บผมและขนสัตว์ คุณควรใช้กระดาษเปียกที่สะอาดและใหม่เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระดาษเปียก(wet wipes)ของคุณหนาพอ
กระดาษเปียกควรจะแข็งแรงพอที่จะไม่ฉีกขาดภายในเครื่องจนเป็นเส้นๆ

เราได้ทดสอบแล้วว่ากระดาษธรรมดาและผ้าเช็ดทำความสะอาดจะไม่ช่วยให้มันดีขึ้น
อย่าพยายามหาสิ่งอื่นๆมาแทนกระดาษเปียกที่เราแนะนำ เช่นกระดาษหรือผ้า เพราะกระดาษไม่แข็งแรงพอจะทำให้สามารถซักแล้วดูดสิ่งสกปรกได้ตรงกันข้าม คุณต้องทำความสะอาดกระดาษชิ้นเล็ก ๆ ออกจากเสื้อผ้าของคุณอีกต่างหาก ส่วนผ้าเปียก (Fabric wipes) เองก็ไม่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์เลยมันเหมือนเราเอาผ้าไปซักเพิ่มสะมากกว่า

อย่าลืมเรื่องกลิ่น

หากคุณไม่ต้องการให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับชื่น เลือกผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่น และคุณสามารถเพิ่มน้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อกำจัดกลิ่นเหล่านี้ได้

คุณเคยลองวิธีนี้หรือไม่? คุณรู้เทคนิคซักอบรีดอื่น ๆ ที่สามารถช่วยคุณได้หรือไม่?

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside เรียบเรียงโดย BTW